"ความรักเหมือนโรคา
บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล
อุปสรรคใดๆ
ความรักเหมือนโคถึก
กำลังคึกพิขังไว้
มีแต่จะแล่นไป
บ่ยอมอยู่ ณ.ที่ขัง"
(มัทนพาธา ~ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6)
พิมเล่นละครเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในมหาวิทยาลัย
ประกอบวิชาสุนทรียศาสตร์ โดยรับบท มัทนพาธา เพราะเพื่อนทั้งห้อง ไม่มีใครจำได้หรอก คำฉงคำฉันท์ แต่เธอจำได้ เล่นไป พูดฉันท์ ไป ร้องไห้ไป เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกจริงๆจังๆๆว่า เพื่อนใหม่คนนี้จะต้องมีอะไรในใจอยู่ลึกๆ และเธอคงเป็นดาราได้
แล้วก็จริง...เธอเหมือนเพลงประจำตัวของเธอ (พวกเราชอบหาเพลงประจำตัวให้เพื่อนๆ เอาไว้เม้าธ์กันเล่นๆ)
เพลง เหงา ซาร่า มาลากุล - เราเรียกพิมว่า ซาร่า เลว
กลอนบทนี้อยู่หน้าสุดของไดอารี่ของพิม...ที่ยกให้พวกเรา
ที่มีชื่อบล็อคและรหัสผ่านของExteen
จึงนำบางส่วนในทั้งหมดของชีวิตผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ได้รู้จักรัก และจบลงด้วยความรัก
เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่คนอื่นได้บ้าง
และหากมีประโยชน์ใดๆบ้าง
ขออุทิศให้แก่พิม ได้พบความสงบณ.สัมปรายภพเทอญ
ด้วยความอาลัยอย่างสุดซึ้ง
นางสาวพิรศลัย (พิม) สุวรรณภักดี
ชาตะ 24 กันยายน 2523
มรณะ 24 มิถุนายน 2548
ศศ.บ.(การท่องเที่ยว) เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
วันที่อนุมัติจบการศึกษาจากสภามหาวิทยาลัย 16 เม.ย.2548
จากคณาจารย์ พี่ น้อง ผองเพื่อน
ภาควิชาการท่องเที่ยวและการโรงแรม และภาควิชาอื่นๆ
คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
ทุกคนรักเธอ...รักมากจริงๆ
ไดอารี่...มหาสมุทรน้ำตา
"...จะว่ายังงัยก้อแล้วแต่...ฉันทนไม่ไหวแล้ว
การอยู่ด้วยกัน..มันไม่ใช่แค่รัก รู้มั้ย
มันต้องเข้าใจ เข้าใจกัน
รักน่ะรัก รักนะ แต่มันไม่ได้น่ะ
ฉันร้องไห้หามัน มันบอกว่าร้องทำไม เป็นโรคจิตเหรอ
ฉันเหงาจัง ตอนรอมันกลับบ้าน ทำไมมันเหมือนตอนที่ฉันรอพ่อกลับบ้านเลยนะ
ฉันมองเห็นเด็กผู้หญิงจากกระจกสะท้อนมา...เด็กคนเดิมยังรออยู่
รอ
รอ
รอ
ทนไม่ไหวแล้ว ช่วยด้วย"
(หน้านี้มีแต่คราบน้ำตา)
"เพิ่งจะได้รู้ ที่แท้เราก็เพียงรักกัน แต่ความรักเท่านั้น ไม่พอ และไม่ง่ายดาย
ก็เพิ่งจะรู้ว่ารักที่ไม่เคยเข้าใจ จะอย่างไรรักนั้นก็คงจบในไม่นาน
และอาจจะต้องเสียใจ ไม่อาจจะไปด้วยกัน
เพราะเธอและฉันที่ไม่มีคำว่า เหมือนเดิม
(เพลงแอม เสาวลักษณ์-อยู่ในบันทึก)"
"เหงาจัง จะโทรก็ไม่กล้า...กลัวเหมือนดาวหลงฟ้า ที่นางเอกโทร.ๆๆๆๆๆๆๆๆๆทั้งวัน
แต่โชคดี ที่พระเอกมันคุยแฮะ ไม่ยักกะบอกว่า
ไม่ต้องโทรบ่อยหรอก ก็เดิมๆนะแหละ เดี๋ยวตอนเย็นก็เจอกันนะ
แต่อยากโทร.นี่ อยากโทร"
"ที่ทำงานโคตรเหงาเลย อยู่หน้าห้องเอ็มดีคนเดียว
กินข้าวก็ใส่กล่องมากินคนเดียว คิดถึงอีนก อีบี อีจอยจัง เมาธ์แตกใต้คณะ
เหงาจัง เหงาจัง"
จดหมายฉบับสุดท้าย..ใต้กล้องแป้งบนโต๊ะในห้องที่เธอหลับนิรันดร์
"ถึงเพื่อนที่วิเศษที่สุด เท่าที่โลกโหดร้ายมอบให้
จนโลกไม่ร้ายเกินไป"
"22 มิถุนายน 2548
อีบี อีจอย อีนก อี...เพื่อนรักทุกคน
...ฉันขอโทษที่คืนนี้ ฉันเพื่อนแกจะเดินทางไกลโดยไม่ต้องเลี้ยงส่ง
ฉันกลัวเหมือนกันนะแก กลัวจริงๆ
แต่นึกถึงเวลาที่เหงาแม้กระทั่งจะรายรอบไปด้วยคน คน คน แต่ก็เหงา
ฉันอยากนอนหลับยาวๆมากกว่า
และแล้ววันนี้...ฉันก็ทำอีก ขอโทษที่ผิดสัญญาแต่ครั้งนี้สุดท้ายแล้วจริงๆนะ
แกรู้มั้ย บางทีที่ต้องนั่งรออยู่ที่บ้านคนเดียว ได้ยินเสียงรถก็ใจเต้น ตึกตักๆ วิ่งมาหน้าบ้าน
แต่พอไม่ใช่มัน ใจเหี่ยวเลย
โทรหา...มันก็บอกเดี๋ยวกลับ เดี๋ยวกลับ เสียงเพลงดังเลย
ไม่เหมือนเดิม ฉันรู้ว่ามันเครียดเรื่องบริษัท เรื่องฉัน มันคงคิดว่าเลือกผิดคนแล้วมั้ง
ฉันร้องไห้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มันบอกว่า ถ้าอยู่กับมันแล้วไม่แฮปปี้ จะคิดใหม่ก้ได้นะ
เล่นง่ายนะ เหี้ยเอ๊ย
กรรมของผู้หญิงนะแกนะ
มันเป็นคนแรก และคนเดียวเท่านั้นนะแกนะ แกรู้นี่นา ฉันมีมันเป็นคนแรก และเป็นคนสุดท้ายในชีวิต ไม่เอาอีกแล้วนะ พอแล้วนะแกนะ
อยากเจอพวกแกจังเลย
ไปดูหนังเรื่องเฉิ่มมาล่ะ ดูคนเดียวด้วยล่ะ หนังโคตรดีเลย
ตอนจบฉันร้องไห้ลั่นโรงเลย คนหาตัวกันชิบหายเลย
ฉันอยากมีความรักดีๆ สะอาดๆเหมือนในหนังบ้างนะ
เบาะข้างๆว่างเปล่า อยู่ไหนนะ ไม่กล้าโทรหา
แต่พอแล้วล่ะมั้ง เกมส์โอเวอร์
พอแล้วๆๆๆๆๆ
ทุกอย่างของฉันให้ยกกลับไปที่บ้านป้าเตียบ เผาเลยก้อได้
พวกทอง เครื่องประดับให้แม่ไว้แต่เมื่อวาน จดหมายถึงแม่อยู้ข้างใต้กำมะหยี่แดงก้นกล่อง
แกแกะหาให้แม่อ่านด้วย
ถ้าไม่ถือ...อะไรๆในกล่องยกให้พวกแกนะ เอาไปเหอะ
เป็นที่ระลึก ระทึกตามใจแก
ช่วยใส่ชุดไทยสีครีมวัน"รดน้ำ"แต่งงานให้ด้วย ตอน"รดน้ำ"ศพ ฉันวางในกล่องใต้เตียง ก้มหาใต้เตียงก้อเห็น รียูสนะเนี่ย
ลาแล้วนะ ลาแล้ว ฉันเหงา บอกบุ๊งด้วย
วาสนาหมดกันเพียงแค่นี้ มีคนอื่นได้เลย จบแล้ว
อโหสิให้ทุกคนนะ ทุกเรื่อง
และขออโหสิด้วยนะทุกคน
ชาติหน้าขอให้ได้เป็นเพื่อนกับพวกแกอีกนะ
โลกนี้ไม่มีที่พอสำหรับคนโง่อย่างฉัน
พิม"
โทรศัพท์ครั้งสุดท้ายกับเรา 20 มิ.ย.
"พิม - แก...ฉันฝากแกดูแลแม่ด้วยนะ
เรา - ทำไมแกจะไปไหนยะ
พิม - เปล่า...แต่แวะมาบ้างนะ เลยมาหาฉันด้วยนะ เหงาจังแก
เรา - ผัวล่ะ
พิม - มันบอกโทรหาน้อยๆหน่อย ทำงานไม่มีสมาธิ
(เงียบ) แก...คิดถึงพวกแกจัง
เรา - เฮ่ย เป็นไรป่ะเนี่ย บุ๊งมันรักแกจะตาย แต่มันเอาใจไม่เก่งนี่หว่า
พิม - บางทีคุยๆ ทะเลาะๆกัน แล้วฉันร้องไห้ มันบอกปวดหัวไมเกรน อย่าทำเครียดมากกว่าเดิม
...ฉันอยากเจอพวกแกจังเลย
เรา - ไว้วันเสาร์ดิ อีบี อีจอยด้วยเอาป่ะล่ะ กลับจากออกทริปพอดีเลย นอนแดกเหล้าให้เยี่ยวราดเลย อาทิตย์ไปสวนกัน
พิม - ดีๆๆๆๆๆๆ อยากเจอๆๆๆๆๆ"
...23 มิ.ย. 48
บุ๊งโกรธเรื่องที่พิมโทรหากว่า 50 มิสคอลล์ เพราะกลับบ้านผิดเวลา ด้วยว่าออกไปดูสวนของลูกค้าแถวพระราม 3 พอรับสายก็ร้องไห้ โฮๆๆ ให้กลับบ้านซักที กลัวๆๆ จนครั้งสุดท้าย 23.20น.อยู่บนทางด่วน รับครั้งสุดท้ายบอกว่า จะถึงแล้ว ไม่ต้องโทร.แล้ว เดี๋ยวรถคว่ำ พิมเงียบไป ร้องไห้กระซิกๆ
24.00 น.เรากำลังอ่านหนังสือจะนอนแล้ว อีบีเพื่อนที่เตรียมฯ ของพิมโทร.มาบอกว่า พิมเข้าโรงพยาบาลให้แวะรับอีนก ที่ปากทางกม. 7 ด้วย ส่วนบีกับจอย อยู่กับบุ๊งที่โรงพยาบาลแล้ว พิมเข้าโรงพยาบาลด้วย "อาการเดิม"
24 มิ.ย. 2548
02.00น. เสียชีวิตอย่างสงบ ห้องไอซียู เสียเลือดจากการกรีดข้อมือ และกินยานอนหลับเกินขนาด หัวใจอ่อนแรง และเสียชีวิตในที่สุด
จดหมายถึงแม่
"...หนูโง่นะแม่ ที่รักไม่เป็น หนูรักแม่ หนูรักแม่ แต่หนูทนไม่ได้แล้ว ไม่ไหว หนูปวดหัว หนูต้องเป็นบ้าแน่เลยแม่ ถ้าบุ๊งมีคนอื่นจริงๆ หนูจากเป็นไม่เอาน่ะแม่ จากตายดีกว่า"
จดหมายถึงบุ๊ง
"...อโหสิให้ด้วย ไม่ใช่ความผิดของบุ๊ง ไม่ใช่ความผิดของบุ๊ง บุ๊งเป็นคนดีที่สุดในใจพิมรักบุ๊งนะ รักที่สุด ไม่รักจะแต่งงานด้วยเหรอ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะพิม พิมผิด พิมน่ารำคาญ ไม่มีพิมแล้ว ไม่ต้องรำคาญ ไม่ต้องปวดหัวแล้วนะ
ลืมพิมไปเลย ไม่มีพิม ไม่มีพิม บุ๊งไม่เคยรู้จักพิมเลย ลืม ลืม ลืม
รักใครก้อรักได้เลย ไม่มีพิม ไม่มีพิม บอกตัวเองไว้นะ ไม่มีพิม
ทำบุญด้วยกันมาแค่นี้
ลืมซะ
ไม่มีพิมทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคตของบุ๊ง"
แผ่นสุดท้ายแปะโพสต์อิทบนกระจก
"การกระทำครั้งนี้ ข้าพเจ้า นางสาวพิรศลัย สุวรรณภักดี กระทำลงไปทั้งที่ยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนทุกประการ และด้วยความสมัครใจของข้าพเจ้าไม่มีผู้ใดบังคับให้กระทำและกระทำด้วยความเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง
นางสาวพิรศรัย สุวรรณภักดี"
เสียชีวิตขณะอายุ 24 ปี กับ 9เดือนเต็มพอดี (เกิดวันที่ 24 เสียวันที่ 24)
ขอให้พิมเป็นคนสุดท้ายที่ต้องตายด้วยความรัก
ถ้าพวกเราเฉลียวใจซักนิด ว่า ทีพิมบ่นว่า เหงา ๆๆๆๆๆๆ อยู่เสมอนั้น
มีนัยแฝงอยู่
เราคงพาพิมไปหาหมอทัน
เราคงให้บุ๊งเคลียร์กับพิม
บุ้งร้องไห้เสียใจ กอดแขน หอมแก้ม หอมมือพิมตลออดตอนรดน้ำศพ พอจะบรรจุโลง บุ๊งร้องไห้ ไม่ยอมให้บรรจุโลง กอดร่างพิมไว้แน่น นานกว่าสองชั่วโมง
หลวงลุง พระผู้ใหญ่ในวัด ขอบินฑบาตรให้พิม ได้บรรจุโลงตามประเพณี
ในวันเผา บุ๊งบวชหน้าไฟ มีกำหนด 1 เดือน
ทุกคนนรู้ว่าบุ๊งรักพิม แต่ทุกคนก็เสียใจที่บุ๊งไม่รู้จัก ดูแลรักษาคนที่รักบุ๊งที่สุดในโลก
ทุกอย่างสายไปแล้ว ไม่มีพิมอีกต่อไป ช้าเกินไป
"...ครั้งแรกที่เห็นพิมประทับใจมาก ที่โรงเรียนใครๆก้อพูดถึงว่าน่ารัก สวย พอรู้จักก้อเริ่มรัก รัก พิมไม่รู้หรอก ว่าเพื่อนคนนี้รัก รัก รัก รักพิม รักที่สุด"
"...บุ๊งผิดเองที่ตอนนั้นไม่ดูแลพิม บุ๊งทำงานเหนื่อย-เครียด เวลาพิมโทรมาก็ดีใจนะ แต่บางทีโมโหถ้ามันเกินพอดี แล้วพพิมก็ร้องไห้ กลับค่ำหน่อย ดึกหน่อยก็งอน ก็ร้องไห้ ง้อกันทุกคืน บางทีก็โมโห บุ๊งผิดเอง บุ๊งเพิ่งรู้ว่า บุ๊งได้เสียคนที่รักบุ๊งที่สุด อย่างไม่มีทางกลับมา บุ๊งรักพิม ไม่เคยลืมพิม"
(จากหนังสืองานฌาปนกิจศพ นางสาวพิรศรัย สุวรรณภักดี 28 มิถุนายน 2548)
ขอบคุณแทนพิม ที่พิมได้เพื่อนดีๆหลายคน เราเองเมื่ออ่านรีพลายของเพื่อนๆพิมที่นี่ ทุกคนน่ารัก และสดใส พิมคงมีความสุขมาก
ทุกคนรีบๆทำอะไรๆไว้นะคะ ก่อนที่อะไรจะสายเกินไป เหมือนที่เกิดขึ้นกับพิม
"เวลากูรักใคร...กูรักด้วยหัวใจ กูไม่เคยต้องคิด ว่าจะต้องทำอะไร ยังงัย กูมีหัวใจไว้รัก ถ้ามึงรักใคร แต่มึงดันใช้สมองเหมือนเล่นเกมส์นินเทนโด มึงไม่ได้รักหรอก นั่นมันเกมส์ชัดๆ"
(วาทะพิม~เวลาเย็นย่ำโพล้เพล้ ใต้ตึกคณะสังคมศาสตร์ โต๊ะกบฏท่องเที่ยว ธันวาคม 2546- กูประทับใจสุดๆเลยมึง)
คิดถึงพิม...